วันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

พิธีหย่าร้างระหว่างคนกับผี


          การกระทำพิธีหย่านั้นไม่มีเฉพาะในมนุษย์โลกเท่านั้น  แม้ในโลกแห่งวิญญาณก็มีพิธีนี้เช่นเดียวกัน  ความรัก  ความห่วงหา  ความอาลัยอาวรณ์  ที่เกิดจากแรงแห่งเสน่หาและความรู้สึกที่ดีที่มีต่อกันของมนุษย์ปุถุชน  ในสังคมมนุษย์นั้นคู่ครองใดที่มีความรักความปรารถนาต่อกัน  ภายหลังวิถีแห่งรักและการดำเนินชีวิตไม่เป็นไปตามที่ตนคาดหวังไว้  ก็สามารถจูงมือกันไปที่อำเภอเพื่อขอจดทะเบียนหย่าได้  หรือไม่ก็ถ้ามีความขัดแย้งกันต่างคนต่างไปก็ถือว่าชีวิตคู่ได้จบลง  หลังจากนั้นก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของกาลเวลาว่าทั้งสองจะนำชีวิตมาบรรจบกันอีกหรือเปล่า
          แต่สำหรับครอบครัวใดที่ยังครองชีวิตคู่มาด้วยกันตลอดมา  อยู่ๆ อีกฝ่ายต้องมาพลัดพรากจากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ (ตาย) ทั้งๆ ที่ทั้งสองไม่ปรารถนาจะให้เป็นแบบนั้น  บางครอบครัวก็กำลังจะเริ่มก่อร่างสร้างฐานะจากไม่มีจะกินก็เริ่มมีอันจะกินอย่างเหลือใช้  จากไม่เคยประสบกับความสุขจากการใช้ชีวิตคู่ก็เริ่มกำลังจะพบแล้ว  หรือไม่ก็กำลังมีชีวิตดวงน้อยผู้เป็นกลอยใจคอยเฝ้ามองอยู่เคียงข้างอย่างน่ารัก  ผู้เป็นสามีหรือภริยาต้องมาด่วนจากไปอย่างน่าเศร้าใจ เมื่อเป็นเช่นนี้อีกฝ่ายที่ยังมีชีวิตอยู่จะต้องทำอย่างไร  บทความที่ท่านกำลังอ่านอยู่นี้มีคำตอบ และถือเป็นแนวทางปฏิบัติได้  เพราะข้าพเจ้านำมาจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้น  และเป็นพิธีกรรมที่ทำให้หลายคนมีความสุขใจ  ไม่ต้องอาลัยอาวรณ์กับผู้ที่จากไป  พิธีกรรมนี้เรียกว่า พิธีหย่า เพื่อให้ดวงวิญญาณที่จากไปมีความสบายใจ  ไม่ต้องข้องแวะ วนเวียน  ล่องลอยเพราะความรัก (พิธีกรรมนี้ในต่างจังหวัดแถบชนบทนิยมประกอบขึ้นเมื่อมีผู้ตายที่ยังมีครอบครัว  ยกเว้นผู้เป็นหม้าย หรือไม่เคยผ่านชีวิตครอบครัวมา)

ขั้นตอนพิธี
          ๑.   อาจารย์พิธี (เอาจารย์) จัดสมด คือไม้ไผ่ผ่าซี่ทำเป็นรูป ๓ เหลี่ยม (ดูรูปประกอบ) มีหมาก พลู  หนีบหรือมัดไว้มุมละ ๑ คำ
           ๒.   หาชายหรือหญิงที่เป็นหม้ายมาร่วมประกอบพิธี  ในกรณีที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตาย  ก็ให้ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่มาทำพิธี  โดยให้ฝ่ายที่ยังมีชีวิตอยู่นั่งหันหน้าไปทางทิศตะวันออก  ส่วนผู้ที่แทนผู้ตายให้นั่งหันหน้าไปทางทิศตะวันตก (นั่งหันหลังให้กัน) ตรงกลางระหว่างทั้งสองนั้นให้ตั้งสมด (ไม้ไผ่ที่ทำในข้อที่ ๑) มาวางไว้ตรงกลาง  และด้านข้างมีเครื่องเซ่นไหว้ (ดาร์) ก่อนทำพิธีให้เซ่นบอกผู้ตายให้เรียบร้อยโดยให้ญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองมาเซ่นบอก (ดูรูปประกอบ)
          ๓.   เมื่อเซ่นไหว้บอกดวงวิญญาณเสร็จแล้ว  ให้หญิง-ชายที่นั่งหันหลังให้กันต่างคนต่างก็ดึงสมด (ไม้ไผ่) ออกจากกัน  โดยไม่ให้หันมามองข้างหลัง  ต่างคนต่างเดินไปข้างหน้า ๒-๓ ก้าว แล้วโยนไม้ไผ่ที่ดึงออกจากกันทิ้ง  พร้อมกันพูดว่าเราแยกจากกันแล้ว  อยู่คนละภพคนละชาติแล้วนะ
          ๔.   จากนั้นก็อาจมีการผูกแขนรับขวัญให้ฝ่ายที่ยังมีชีวิตอยู่เพื่อเป็นศิริมงคล
หมายเหตุ :- พิธีใดๆ ก็ตามถ้าทำด้วยความตั้งใจ  ย่อมส่งผลถึงจิตใจ  และนำความสุขกาย  สบายใจมาสู่ผู้นั้นอย่างกระทันหันเลยทีเดียว

ได้รับข้อมูลจาก
                                                                                                                                      พระครูอรรถธรรมโสภิต
                                                                                                                              เจ้าคณะตำบลตาตุม ธรรมยุต
 เจ้าอาวาสวัดพระธาตุเสด็จ
ตำบลเทพรักษา  อำเภอสังขะ  จังหวัดสุรินทร์