ประเด็นที่จะนำเสนอ
บริบททั่วไป (ย่อๆ)
หมู่บ้านปราสาทเยอ ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลปราสาทเยอ อำเภอไพรบึง
จังหวัดศรีสะเกษ มีถนนสายหลัก
คือทางหลวงหมายเลข 24 กรุงเทพฯ–เดชอุดมตัดผ่าน
ส่วนมากผู้ที่อาศัยอยู่เป็นชาวเยอ ชาวบ้านจะพูดภาษาเยอเป็นหลัก
ซึ่งมีส่วนคล้ายภาษาส่วยบ้าง และภาษาลาวอีสาน
ส่วนน้อยที่สามารถพูดภาษาเขมรได้ ถ้าติดต่อราชการจะใช้ภาษาไทยภาคกลาง
ชาวบ้านมีอาชีพทำนาเป็นหลัก มีการจัดตั้งกลุ่มแม่บ้านเพื่อทอผ้าไหม
บางกลุ่มก็ต้มเหล้าขายเป็นธุรกิจชุมชน
สถานที่สำคัญ
ศาสนสถาน หมู่บ้านปราสาทเยอมีวัดอยู่ 2 วัด คือวัดเหนือ วัดใต้
แต่ละวัดมีพระอยู่จำพรรษาไม่ขาด
สถานศึกษา ในหมู่บ้านมีโรงเรียนประจำหมู่บ้าน
คือโรงเรียนปราสาทเยอ ติดถนนทางหลวงสาย
24
โบราณสถาน มีปราสาทเก่าแก่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่วัดปราสาทเยอเหนือ ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
สามารถขอพรได้
การเข้าถึงพื้นที่เป้าหมาย
การเดินทางมาเพื่อทัศนะศึกษา สามารถเดินทางมาได้ด้วยรถยนต์ ถ้าขับรถมาเองจากกรุงเทพฯ ผ่านทางหลวงสาย 24 เข้าเขตอำเภอไพบึง
แต่ส่วนมากนักท่องเที่ยวจะเดินทางมาเป็นคณะทัวร์ เป้าหมายหลักจะมาเพื่อกราบนมัสการหลวงพ่อมุม มากกว่าที่จะเที่ยวดูวัฒนธรรมชุมชน
ประวัติหลวงพ่อมุม อินฺทปญฺโญ
พระครูประสาธน์ขันธคุณ
หรือหลวงพ่อมุม อินฺทปญฺโญ
ไม่มีประวัติปรากฏเป็นหลักฐานที่แน่ชัดนัก เพราะท่านได้มรณภาพไปนานแล้ว ท่านทิ้งไว้แต่ผลงานและเกียรติประวัติไว้ให้ผู้คนได้ชมบารมีของท่านเท่านั้น
แต่จากคำบอกเล่าของชาวบ้านในพื้นที่สามารถสรุปได้ว่า ท่านเกิดวันที่
30 พฤศจิกายน
2430 โดยเกิดที่บ้านปราสาทเยอนี่เอง
เป็นบุตรของนายมากและนางอิ่ม นามสกุล บุญโญ มีพี่น้องร่วมอุทร
5 คน ท่านเป็นคนสุดท้อง
มีรูปหล่อของท่านจารึกว่าถูกสร้างขึ้นอยู่ด้วยคือ “อายุครบ
90 ปี 4 มี.ค. 2520” หลวงพ่อมุมเป็นเจ้าอาวาทวัดปราสาทเยอเหนือ
ท่านเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อเส็ง เจ้าอาวาทวัดปราสาทเยอใต้ หลวงพ่อท่านเป็นชาวเผ่าเยอโดยกำเนิด
ได้บวชเป็นสามเณรตั้งแต่อายุ 10 ขวบ
และอยู่ในสมณะเพศตลอดชีวิตท่าน หลวงพ่อถือปฏิบัติธรรมกรรมฐานเป็นสรณะของท่านได้เคยเดินธุดงค์ทั่วป่าเขาภาค
อีสานจนเข้าไปถึงประเทศเขมร หลังจากนั้นท่านกลับไปจำพรรษาที่วัดปราสาทเยอเหนือ
ท่านมาอยู่ที่วัดปราสาทเยอ
แล้วได้ดำรงตำแหน่งเป็นครูใหญ่คนแรกของโรงเรียนบ้านประอาง เมื่อ พ.ศ. 2459 - 2474 เป็นเวลา
15 ปี
ท่านได้รับการศึกษาอักษรไทยจากเจ้าอธิการปริม จนอ่านออกเขียนได้ และได้ศึกษามูลกัจจายนะสูตรจนสอบธรรมสนามหลวงได้นักธรรมตรี ใน และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นครูใหญ่สอนหนังสือไทยในโรงเรียนวัดบ้านปราสาทเยอเหนือคนแรก
ท่านได้รับการศึกษาอักษรไทยจากเจ้าอธิการปริม จนอ่านออกเขียนได้ และได้ศึกษามูลกัจจายนะสูตรจนสอบธรรมสนามหลวงได้นักธรรมตรี ใน และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นครูใหญ่สอนหนังสือไทยในโรงเรียนวัดบ้านปราสาทเยอเหนือคนแรก
หลวงพ่อมุมท่านเคร่งครัดพระธรรมวินัยมีกิริยาวาจาอ่อนโยนเปี่ยมเมตตา
เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของประชาชนทั่วไป พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถเสด็จทอดกฐินที่วัด
ปราสาทเยอร์เหนือเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ.2514 หลวงพ่อมรณะภาพปี พ.ศ.2522 หลวงพ่อมุมท่านสร้างวัตถุมงคลไว้หลายชนิด โดยเฉพาะเหรียญมีหลายรุ่น เป็นที่นิยมศรัทธาของบรรดาศิษย์โดยเฉพาะทหารนาวิกโยธินอเมริกันในยุคสงคราม
เวียตนาม ได้เห็นถึงความขลังของหลวงพ่อเมื่อได้ลองยิงเหรียญแล้วกระสุนยิงไม่ออก จึงได้มาขอขมาหลวงพ่อมุม
และขอหลวงพ่อสร้างเหรียญ ปี พ.ศ.2516 มีรูปหลวงพ่อและตัวหนังสือภาษาอังกฤษทั้งหน้าและหลังเหรียญ
เรียกว่า เหรียญ PAPAMUM
ปฏิปทาของหลวงพ่อมุม
จากการสัมภาษณ์เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน พระในวัด
และไวยาวัจกรวัด พบว่า หลวงพ่อมุมมีบทบาทหลายอย่าง
เช่น เป็นครู เป็นครูเพลง
เป็นหมอรักษาไสยเวทย์ เป็นเทพเจ้าแห่งปราสาทเยอ
หมู่บ้านปราสาทเยอถือเป็นหมู่บ้านที่น่าสนใจในแง่มานุษวิทยาแนวชาติพันธุ์ที่ยังคงเหลืออยู่ในประเทศไทย
คือที่จังหวัดศรีสะเกษ แต่ที่มีข้อสังเกตว่าทำไมคนต่างถิ่นรู้จักหลวงพ่อมุมในแง่อิทธิปาฏิหาริย์มากกว่าความเป็นชาวเยอ
แต่นักวิชาการสนใจความเป็นชาวเยอมากกว่าพระสงฆ์ ชาวเยอจริงๆ กลับมองว่าพระสงฆ์คือตัวแทนของเขา
ดังนั้น พุทธศาสนาเป็นศาสนาที่มีบทบาทสำคัญในการรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรม
สร้างความสามัคคี และความสงบสุขในสังคมได้อย่างแท้จริง
@@@@@@@@@@@@@@@@
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น